เทคนิคการจู่โจมของคาราเต้ดั้งเดิมมีความรุนแรงสูงซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือถึงตายได้ ดังนั้นในการแข่ง คาราเต้เพื่อการกีฬา, จึงมีการห้ามนำการจู่โจมซึ่งอันตรายมาใช้ และเทคนิคทั้งหมดจะต้องมีการควบคุมบางส่วน ของร่างกาย ให้สามารถรับแรงกระแทกได้ดีพอสมควร เช่น หน้าท้อง แต่บริเวณ ศีรษะ, ใบหน้า, ลำคอ, ขาหนีบ, และข้อต่อที่ยังอ่อนไหว ฉะนั้นการจู่โจมที่ตั้งใจซึ่งก่อให้เกิดการบาดเจ็บอาจถูกปรับโทษ ยกเว้นเกิดขึ้นจาก ผู้ถูกกระทำเอง ผู้แข่งขันต้องจู่โจมด้วยการควบคุมที่ดี และท่าทางที่ดี มิฉะนั้นอาจถูกปรับโทษได้ เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้เข้าแข่งขัน
จึงเป็นที่ทุกคนยอมรับ และเป็นที่นิยมกันทั่วประเทศ จนถึงระดับโลก และได้นำเข้าสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ อาทิ sea games , asian games และกำลังเข้าสู่ olympic games ในอนาคต
โดยได้มีการกำหนดให้ผู้แข่งขันสามารถโจมตีส่วนต่าง ๆ ของคู่ต่อสู้ได้เฉพาะบริเวณดังต่อไปนี้ คือ
ศรีษะ, หน้า, คอ, ท้อง, อก, หลัง, ข้างลำตัว
การให้คะแนนสามารถให้ได้ตามระดับต่อไปนี้ :
SANBON (ซันบอน) 3 คะแนน
NIHON (นิฮอง) 2 คะแนน
IPPON (อิปโป้ง) 1 คะแนน
1. การให้คะแนน SANBON เกิดจากการที่นักกีฬา
เตะสูง หรือ (JODAN KICK) บริเวณใบหน้า , ศีรษะ
กวาดขา หรือเหวี่ยงคู่ต่อสู้ล้มลง และตามด้วยการจู่โจมที่บริเวณใบหน้า,
ศีรษะหรือระดับลำตัว ด้วยการต่อย,การเตะในเวลาประมาณ 2-3 วินาที หลังจากการทุ่มหรือโยน
2. การให้คะแนน NIHON เกิดจากการที่นักกีฬา
การเตะระดับลำตัว (CHUDAN KICKS)
ชกด้านหลังของคู่ต่อสู้
ใช้เทคนิคการต่อสู้ด้วยมือเป็นชุดซึ่งแต่ละเทคนิคสามารถทำคะแนนได้
ทำให้คู่ต่อสู้เสียหลัก แล้วจึงทำตามด้วยการจู่โจมที่บริเวณใบหน้า, ศีรษะหรือระดับลำตัว ด้วยการต่อย, การเตะ
3. การให้คะแนน IPPON เกิดจากการที่นักกีฬา
ใช้การต่อยระดับลำตัว(CHUDAN punch) หรือระดับสูง( JODAN punch)
ใช้หลังมือ (UCHI) ฟาดตามด้วยการจู่โจมที่บริเวณใบหน้า, ศีรษะ
ลักษณะการทำคะแนนที่ถูกต้อง เมื่อการจู่โจมนั้นมีคุณสมบัติ ดังนี้
I. การจู่โจมด้วยท่าทางที่ดี (Good Form) หมายถึง การจู่โจมที่มีลักษณะตรง ตามบรรทัดฐานของคาราเต้ดั้งเดิม(ท่าพื้นฐานของคาราเต้)
II. ทัศนคติทางกีฬา (Sport Attitude) หมายถึง การจู่โจมด้วยท่าทางที่ดี และไม่มีความตั้งใจที่ จะปองร้ายหรือมุ่งร้าย ต่อคู่ต่อสู้ในขณะที่ใช้เทคนิคจู่โจมทำคะแนน
III. การใช้พลังและความเร็ว (Vigorous Application) หมายถึง การแสดงให้เห็นถึงพลังและความเร็ว ในการใช้เทคนิคจู่โจมและแสดงความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นที่ต้องการให้การจู่โจมสำเร็จ ด้วยพลังที่สูงสุดและเร็วที่สุด ณ ช่วงเวลานั้น
IV. การระวังการจู่โจมกลับ Awareness (Zanshin) เป็นบรรทัดฐานหนึ่งที่ไม่ค่อย ได้นำมาประกอบการให้คะแนน ซึ่งจะเป็นสภาวะต่อเนื่องจากการโจมตี โดยที่นักกีฬาต้องรักษาระดับสมาธิ, การสังเกตคู่ต่อสู้, และการระวัง ความเป็นไปได้ของการถูกโจมตีกลับจากคู่ต่อสู้ขณะที่ตนเองเข้าทำการจู่โจม เช่น ไม่หันหน้าหนีจากคู่ต่อสู้ ขณะที่ทำการจู่โจมคู่ต่อสู้
V. จังหวะการจู่โจม (Good Timing) หมายถึง ได้ทำการจู่โจมคู่ต่อสู้ ณ ช่วงเวลาที่มีโอกาสมากที่สุด หรือเป็นจังหวะที่ดีที่สุด ณ ช่วงเวลานั้น
VI. ระยะการจู่โจม (Correct Distance) หมายถึง การจู่โจมคู่ต่อสู้ในระยะที่เหมาะสม ทำให้การจู่โจม มีประสิทธิผลสูงสุด หากทำการจู่โจมขณะคู่ต่อสู้กำลังถอยหลังอย่างเร็วนั้น ผลการจู่โจมก็จะลดลง
VII. ระยะหยุด (Distancing) หมายถึง เมื่อสิ้นสุดการจู่โจมอวัยวะที่ใช้ในการจู่โจม เช่นการเตะหรือชกใบหน้า ควรหยุดลงเมื่อสัมผัสผิวเป้าหมาย หรืออาจมีระยะห่างประมาณ 2-3 เซนติเมตรจากเป้าหมายแต่หากเป็น การต่อยแบบ(Jodan Punch) หรือต่อยที่ใบหน้า ซึ่งมีระยะการหยุดที่เหมาะสมและคู่ต่อสู้ไม่ได้แสดงถึงความพยายามที่จะปัด หรือหยุด หรือหลบหลีกใดๆ ทั้งนี้การจู่โจมต้องได้มาตรฐานการจู่โจมในข้ออื่นด้วย